เหตุผลที่เสื้อเหลืองล้มเหลวในความเห็นของผม

เพื่อนถามผมว่า ทำไมเสื้อเหลืองถึงล้มเหลว? ผมขออนุญาตแบ่งปันบทเรียนจากเรื่องนี้ให้แก่คนรุ่นหลัง

ยาวไปไม่อ่าน – กลุ่มที่ดำเนินการโดยวัตถุประสงค์เพื่อทำลายล้าง ก็จะทำเป็นแต่การทำลายล้าง

ในความรู้สึกของผม ในตอนแรกที่พวกเราอยู่ในสภาวะเป็นรองโดยไม่มีโอกาสใด ๆ ที่จะชนะ เราใช้แนวทางอหิงสาตามอย่างคานธี ซึ่งไม่ใช้ความรุนแรง เราใส่ใจกับบทบาทของเรา โดยรักษาบริบทของการยึดความจริงและหลักการธรรมาภิบาล และปฏิบัติต่อทุกคนด้วยความเมตตา (ยกเว้นกับทักษิณและพรรคพวก ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดของเรา) การต่อต้านทักษิณส่วนมากเป็นไปในรูปแบบการล้อเลียน ซึ่งใช้ความสร้างสรรค์และค่อนข้างชาญฉลาด หรืออยู่บนพื้นฐานของอุดมการณ์ทางความคิด อย่างเช่นที่เสื้อเหลืองที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง เคยกล่าวไว้ว่า “เราจะสู้เพื่อในหลวง” เรารับมือกับการข่มขู่และความรุนแรงด้วยความสุภาพและความสงบ ผมยังคงจำได้ว่า เคยเห็นความสำเร็จของการเจรจากับตำรวจและเห็นผู้ก่อเหตุถูกนำตัวออกจากพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ความคิดที่จะขับรถแทรกเตอร์พุ่งเข้าหาตำรวจหรือกระทำต่อกลุ่มผู้ยุยงจนพวกเขาต้องร้องขอชีวิตในขณะนั้นเป็นเรื่องที่คงจะถูกมองว่าป่าเถื่อน

ในช่วงเดือนหลังจากนั้น พวกเราก็ถดถอยลง บุคคลแรกที่เริ่มใช้คำหยาบคายคือหลวงตามหาบัว ซึ่งเรียกทักษิณว่า “สัตว์” (หรืออาจจะเป็นอะไรที่หยาบกว่านั้น จำไม่ค่อยได้) ซึ่งพวกเราในขณะนั้นถึงแม้จะรู้สึกตกใจแต่ก็คิดว่าหลักการอหิงสานั้นควรจะมีความยืดหยุ่นบ้าง นั่นเองเป็นจุดที่เริ่มทำให้ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อเหลืองเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น

เมื่อเหตุการณ์เสื้อแดงจบลง กลุ่มเสื้อเหลืองเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความกลัว จนทำให้พวกเราไม่ต่างไปจากสิ่งที่เราเกลียดเลย จะเห็นได้ชัดจากตอนที่กลุ่ม กปปส. เริ่มถดถอยลงต่อจากเหตุการณ์เสื้อแดง เราเปลี่ยนจากกลุ่มคนที่ตกใจเมื่อมีความพูดว่า “สัตว์” บทเวที มาเป็นกลุ่มคนที่โอเคกับการล้อเลียนและพูดถึงอวัยวะสืบพันธุ์ของยิ่งลักษณ์ ดังนั้นอาจเป็นได้ว่า ความจริงที่พวกเราไม่อยากยอมรับคือ เสื้อเหลืองและเสื้อแดงนั้นไม่แตกต่างจากกันเลยนั่นเอง

เมื่อเรามุ่งเน้นไปที่การทำลาย เราก็จะทำลายเพียงอย่างเดียวโดยมีความรุนแรงรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เป็นอาวุธ และไม่ให้ความสนใจต่อการเรียนรู้ที่จะเสริมสร้าง ต่อการทุจริตคอรัปปชั่นเราก็ให้ประการ ต่อสื่อที่ไม่มีมารยาท เราก็ให้ปิดกั้น ต่อความเห็นที่ไม่จงรักภักดี เราก็ให้เข้าคุก ความโหดร้ายทารุณ ความเกลียดชัง ความหุนหันพลันแล่น ความทระนง และความกลัวเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ของกลุ่มเสื้อเหลือง และนี่เป็นจุดแตกหักระหว่างผมกับเสื้อเหลืองรุ่นปัจจุบัน

ผมเปลี่ยนไปตรงไหน?

ผมเลิกใช้เวลาและพลังงานของผมในการล้มล้าง ปัจจุบันผมเลือกที่จะมีส่วนร่วมกับการเสริมสร้างหรือส่งเสริมในประเด็นที่จะทำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ซึ่งเท่าที่เห็น หนทางนี้ก็กำลังไปได้ด้วยดี

ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของผมและจากความจำที่คลาดเคลื่อนแน่นอน และไม่ควรถูกนำไปอ้างอิง

Share

CC BY 4.0 This work is licensed under a Creative Commons Attribution 4.0 International License.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *